ทำความรู้จัก New Teams

        เป็นปกติที่ Microsoft Teams จะมีการปรับปรุง พัฒนา ฟังก์ชันการใช้งานใหม่อย่างสม่ำเสมอ และในครั้งนี้ได้มีการปรับปรุงครั้งใหญ่ พร้อมมีการเปลี่ยนชื่อ Microsoft Teams  โดยในเวอร์เก่าจะถูกเรียกว่า Microsoft Teams Classic  ส่วนในเวอร์ชั่นใหม่ เรียกว่า   New  Teams ซึ่งในเวอรชันใหม่นี้ การติดตั้งและเรียกใช้งานโปรแกรมจะสามารถโหลดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเปิดใช้งานแอปและเข้าร่วมประชุมได้รวดเร็วขึ้น  อีกทั้ง  New  Teams    ยังลดการใช้หน่วยความจำและพื้นที่ฮาร์ดดิสก์  ผู้ใช้งานที่มีบัญชีการใช้งานหลายบัญชีหรือต่าง Domain ก็สามารถใช้งานได้ร่วมกันได้บน   New  Teams  

        ปัจจุบันนี้หากผู้ใช้งานมีการเข้าใช้งาน Microsoft Teams ระบบจะบังคับให้เปลี่ยนจาก Microsoft Teams Classic เป็น  New  Teams โดยอัตโนมัติ หากผู้ใช้งานต้องการเปลี่ยนกลับมาใช้งานในเวอร์ชันเดิม สามารถทำได้ โดยคลิกที่ more option บริเวณมุมขวาบน จากนั้นคลิกปิด New Teams  ดังภาพด้านล่าง

 

      แต่หลังจากวันที่  31 มีนาคม 2567  Microsoft Teams Classic จะไม่สามารถเข้าใช้งานได้ โดยระบบจะทำการปรับเป็น New  Teams ทั้งหมดโดยอัตโนมัติ โดยฟังก์ชันการทำงานหลายฟังก์ชันถูกปรับดังตารางด้านล่างนี้

เปรียบเทียบความแตกต่างของฟังก์ชันการใช้งานระหว่าง Classic  Teams และ New Teams
ฟังก์ชัน
Classic Teams
New Teams
สถานะผู้ใช้งาน
ระบบจะแจ้งเตือนเมื่อบุคคลที่เราติดตามขึ้นสถานะ availability
ผู้ใช้งานสามารถดูสถานะการใช้งานของบุคคลที่เราต้องการติดต่อจาก Display Profile นอกจากนี้ยังสามารถดูสถานะ available หรือ busy ของผู้ที่เราต้องการติดต่อของ Outlook Calendar ได้จาก Display Profile นี้ด้วย
ข้อมูลติดต่อ
สามารถเข้าถึงข้อมูลติดต่อได้ภายในช่องสนทนา
การเข้าถึงข้อมูลติดต่อจะไม่สามารถเข้าถึงได้จากช่องสนทนาอีกต่อไป แต่จะเข้าถึงได้ผ่านแอป People โดยแอปดังกล่าวจะอยู่บริเวณเมนูด้านซ้ายใน กลุ่ม More Added apps (…)
การแจ้งเตือน
แจ้งเตือนผ่าน Windows notifications
แจ้งเตือนผ่าน New Teams และสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนได้
การบันทึกข้อความและไฟล์
สามารถบันทึกข้อความสนทนาและไฟล์ได้
ไม่สามารถบันทึกได้อีกต่อไป แต่ข้อความและไฟล์ที่เคยถูกบันทึกไว้ใน Classic Teams สามารถเปิดใช้งานได้ใน New Teams
การตั้งค่า Theme
สามารถเข้าไปตั้งค่าใน Classic Teams ได้ที่ Setting > General
สามารถเข้าไปตั้งค่าใน New Terams ได้ที่ Teams Settings > Appearance and Accessibility
แผนภูมิองค์กร
ดูได้จากช่องสนทนา
สามารถดูได้จาก Display Profile ใน New Teams
การแจ้งเตือนใน Chanel
สามารถปรับแต่งการแจ้งเตือนใน Chanel ได้
ผู้ใช้งานจะไม่สามารถปรับแต่งการแจ้งเตือนใน Chanel ได้
คำสั่งการค้นหา
สามารถใช้คำสั่งเหล่านี้ได้ /activity, /files, /goto, /help, /join, /keys, /mentions, /org, /saved, /testcall, /unread, /whatsnew, /who.
ไม่สามารถใช้คำสั่งเหล่านี้ได้ /activity, /files, /goto, /help, /join, /keys, /mentions, /org, /saved, /testcall, /unread, /whatsnew, /who.
Wiki
สามารถเพิ่ม Wiki ใน Chanel Tab ได้
ไม่สามารถเพิ่ม Wiki ใน Chanel Tab ได้ แต่สามารถใช้ แอป Notes แทนได้
การเพิ่มพื้นที่ (cloud storage)
สามารถเพิ่ม cloud storage ที่เป็น third party จาก Files app และ Files tab
ไม่สามารถเพิ่ม cloud storage จาก OneDrive ใน Teams หรือจาก file tab ใน Channel ได้ แต่สามารถเพิ่ม cloud storage ได้จาก Teams App Store
Document Library
สามารถเพิ่มแอป Document Library บน tab ใน Chanel ได้
ใช้ Document library จากแอป SharePoint แทน Document libraries จาก Classic ซึ่งในส่วน Document library จะถูกปรับไปเป็น SharePoint document library ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้งาน
Activity tab
สามารถใช้งานได้บน Tap Chat
ไม่มีให้บริการ
LinkedIn
สามารถใช้งานได้ในบน Tap Chat
สามารถเข้าถึงได้จาก Display Profile ตำแหน่งใดก็ได้ภายใน New Teams
การเปลี่ยนชื่อและรูปภาพ Teams
สามารถเปลี่ยนได้จาก More option > Edit team
สามารถเปลี่ยนได้จาก More option > Manage team
Files app
สามารถใช้งานได้จากแถบเมนูทางด้านซ้ายของแอป
ถูกแทนที่ด้วยแอป OneDrive ซึ่งอยู่ตำแหน่งเดียวกันกับ Files app
Tag
สามารถใช้งานได้ในหน้าการเพิ่มสมาชิก
ได้รับการปรับปรุงให้มีรูปแบบการใช้งานที่สะดวกมากขึ้น
About links
สามารถใช้งานได้ใน More options menu
สามารถใช้งานได้ในการตั้งค่า ภายใต้ About Teams category
Help
อยู่บริเวณมุมล่างด้านซ้ายของแอป
อยู่บริเวณเมนู More options
การออกจากการแจ้งเตือน
คลิกบริเวณ system tray
ไม่มีให้บริการ
การสร้างทีมแบบส่วนตัว
ใช้ Adaptive cards
ไม่มีให้บริการ

update on 1 February 2024

Scroll to Top